ค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์หุ้น ที่ควรรู้ก่อนการลงทุน

ค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์หุ้น คือ ค่าคอมมิชชันที่เรียกเก็บ โดยนายหน้าซื้อขายหุ้นสำหรับการดำเนินการตามคำสั่งซื้อหรือขายในนามของนักลงทุน โดยทั่วไปแล้วโบรกเกอร์หุ้นจะเรียกเก็บเงินเป็นเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าธุรกรรมทั้งหมด

โดยปกติจะอยู่ระหว่าง 0.1% ถึง 2% ค่าธรรมเนียมขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของธุรกรรมและบริการที่โบรกเกอร์จัดหาให้

ตัวอย่างเช่น เมื่อนักลงทุนต้องการซื้อหุ้นในบริษัทจำนวนหนึ่ง พวกเขาต้องหา โบรกเกอร์หุ้น ซื้อขายหุ้นที่เหมาะสมก่อน จากนั้นโบรกเกอร์หุ้น ซื้อขายหลักทรัพย์จะจับคู่ ผู้ซื้อ และ ผู้ขาย เข้าด้วยกัน

เพื่อดำเนินการซื้อขายในราคาที่ทั้งสองฝ่ายตกลงร่วมกัน หลังจากดำเนินการเสร็จสิ้น นายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์จะรับค่าคอมมิชชั่นจากรายได้จากการขาย

นักลงทุนส่วนใหญ่เลือกใช้โบรกเกอร์ออนไลน์ เนื่องจากมักจะมี ค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์หุ้น ต่ำ ที่ให้บริการเต็มรูปแบบแบบดั้งเดิม โบรกเกอร์ออนไลน์ ไม่ได้ให้คำแนะนำหรือรายงานการวิจัย แต่เสนอค่าคอมมิชชั่นที่ลดลงอย่างมาก

พวกเขายังให้การเข้าถึงตลาดที่แตกต่างกันมากมายทั่วโลก ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ค้าที่ต้องการกระจายการลงทุนของพวกเขา

ค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์หุ้น 2565

เมื่อตัดสินใจว่าจะใช้โบรกเกอร์ใด สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณา ค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์หุ้น และค่าคอมมิชชันที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับแต่ละโบรกเกอร์

สิ่งสำคัญคือต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บนั้นโปร่งใสและมองเห็นได้ชัดเจนก่อนทำการสั่งซื้อ โบรกเกอร์หลายแห่งเสนอบัญชีที่ไม่มียอดเงินคงเหลือขั้นต่ำ ดังนั้นนักลงทุนสามารถเริ่มต้นโดยใช้เงินทุนเพียงเล็กน้อย

นอกจากนี้ โบรกเกอร์ บางรายอาจเสนอส่วนลดสำหรับค่าใช้จ่ายในการซื้อขาย หากนักลงทุนมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์บางประการ เช่น มีพอร์ตโฟลิโอขนาดใหญ่หรือซื้อขายกับพวกเขาบ่อยครั้ง

ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับนักลงทุนในการเปรียบเทียบโบรกเกอร์ต่างๆ และเลือกโบรกเกอร์ที่มีการซื้อขายต้นทุนต่ำโดยไม่ประนีประนอมกับบริการที่มีคุณภาพ

โดยรวมแล้ว การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ ค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์หุ้น ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้โบรกเกอร์หุ้นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเริ่มซื้อขายหุ้นหรือหลักทรัพย์อื่น ๆ

ด้วยการจับจ่ายและเปรียบเทียบโบรกเกอร์ต่างๆ นักลงทุนสามารถค้นหาโบรกเกอร์ที่เหมาะกับความต้องการของพวกเขาได้ ในขณะที่นำเสนอการซื้อขายที่มีต้นทุนต่ำโดยไม่ต้องเสียสละบริการที่มีคุณภาพ

ค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์หุ้น

ค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์หุ้น 5 ข้อที่ควรรู้

ค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์หุ้น หรือที่บางคนเรียกว่าค่าคอมมิชชั่น เป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนที่กำลังเริ่มเล่นหุ้นอาจจะมองข้ามไป เมื่อเราเริ่มต้นลงทุนในหุ้นที่มีการลงทุนผ่านระบบเทรดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Streaming หรือว่า efin ก็ตาม ซึ่งความจริงแล้วมันก็เป็นต้นทุนของเราเหมือนกัน เพราะอย่าลืมว่าไม่มีใครมาเปิดบริการให้เราใช้ฟรีแน่นอน

  1. “ค่าธรรมเนียมหุ้น” แตกต่างกันตามแต่ละประเภทบัญชีและวิธีการซื้อขาย
    ปกติแล้วการซื้อขายหุ้นโดยทั่วไป เราสามารถซื้อขายหุ้นได้ 2 ช่องทาง คือ ซื้อขายเองผ่านอินเทอร์เน็ต หรือ ซื้อขายผ่าน marketing ซึ่งแน่นอนว่าค่าธรรมเนียมที่เราซื้อขายเองย่อมต่ำกว่าซื้อขายผ่าน marketing แต่สำหรับการซื้อขายหุ้นด้วยตัวเอง ค่าธรรมเนียมจะแตกต่างตามประเภทบัญชีที่เราใช้ คือ ถ้าเราซื้อขายผ่านบัญชีเงินสดจะเสียค่าธรรมเนียมสูงกว่าบัญชีแคชบาลานซ์หรือเครดิตบาลานซ์ ไว้พี่ทุยจะลองมาแยกให้ดูว่าบัญชีแต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร
  2. ในค่าธรรมเนียมซื้อขายหุ้นที่เราเสียไปส่วนหนึ่งเป็นค่าใช้จ่ายให้ตลาดหลักทรัพย์ด้วย
    อย่างที่เรารู้ดีว่าตลาดหลักทรัพย์มีหน้าที่กำกับดูแลและปกป้องนักลงทุนรายย่อย ซึ่งย่อมมีค่าใช้จ่าย แต่เป็นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น คือ
  • ค่าธรรมเนียมตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET Trading Fee) : 0.005% ของมูลค่าการซื้อขายต่อวัน
  • ค่าธรรมเนียมการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ (TSD Clearing Fee) : 0.001% ของมูลค่าการซื้อขายต่อวัน
  • ค่าธรรมเนียมการกำกับดูแล : 0.001% ของมูลค่าการซื้อขายต่อวัน

ซึ่งรวมกัน คือ 0.007% เท่านั้นเอง พี่ทุยว่าน้อยมาก ๆ แล้วก็เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการลงทุนก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว

  1. นอกจาก “ค่าธรรมเนียมหุ้น” แล้ว เรายังต้องจ่าย VAT อีก 7%
    แต่ไม่ต้องตกใจไป เพราะ VAT ไม่ได้เก็บจากจำนวนเงินที่เราซื้อขายหุ้น แต่ VAT จะคิดจากค่าธรรมเนียมซื้อขายหุ้นที่เราจ่ายให้กับโบรคเกอร์รวมกับ ค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์หุ้น ที่เราจ่ายให้ตลาดหลักทรัพย์ สมมติว่าเค้าเสียค่าธรรมเนียม 0.18% เราก็จะเสียค่าธรรมเนียมจริง ๆ ก็บวกไปอีก 7% ของ 0.18% หรือเท่ากับ 0.1926% เท่านั้นเอง ถ้าคิด 7% จากเงินลงทุน พี่ทุยว่าเล่นหุ้นชาติไหนจะรวยได้ละเนี้ย พี่ทุยคนนึงคงไม่เล่นหุ้นแน่ ๆ
  2. เราสามารถต่อรองค่าธรรมเนียมได้ !!
    ถ้าเรายิ่งเทรดจำนวนเงินเยอะ ๆ ค่าธรรมเนียมก็จะยิ่งถูกลง ๆ ได้เรื่อย ๆ ขึ้นอยู่การต่อรองกันทั้งนั้น แต่พี่ทุยบอกได้เลยว่ารายย่อยแบบเราไปต่อรองเค้าก็คงไม่ได้ให้โปรโมชั่นอะไรกับเราเท่าไหร่ แต่เผื่อไว้ในอนาคตที่เรารวย ๆ ก็อย่าลืมไปเจรจาต่อรองกันดู
  3. มีค่าธรรมเนียมขั้นต่ำหรือเปล่า ?
    ส่วนใหญ่โบรคเกอร์ที่คิดค่าธรรมเนียมขั้นต่ำจะคิดที่ 50 บาทต่อวัน สำหรับมือใหม่ที่เริ่มลงทุนน้อยๆปริมาณเทรดต่อวันไม่เกิน 25,000 บาท พี่ทุยแนะนำให้ไปลองหาโบรคเกอร์ที่เค้าไม่คิดค่าธรรมเนียมขั้นต่ำดีกว่า เพราะสมมติเราเทรดเองต่อวัน 10,000 บาท ค่าธรรมเนียมตามจริงที่เราจะเสียคือ 0.2% ก็คือ 20 บาท แต่โบรคเกอร์ที่เราใช้มีค่าธรรมเนียมขั้นต่ำ 50 บาท เท่ากับเรามีต้นทุนการซื้อขายเพิ่มขึ้นมา 1.5 เท่าเลยทีเดียว แบบนี้พี่ทุยแนะนำให้หาโบรคเกอร์ที่ไม่คิดค่าธรรมเนียมขั้นต่ำจะดีกว่านะ

ทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องที่น่ารู้เกี่ยวกับ “ค่าธรรมเนียมหุ้น” พี่ทุยหวังว่าจะทำให้เข้าใจตลาดหุ้นและเรื่องค่าธรรมเนียมมากขึ้น ถ้าหากเรารู้เรื่องนี้ แล้วอยากที่จะเริ่มต้นซื้อหุ้นแบบจริงจังแต่ยังไม่รู้ว่าหุ้นตัวไหนเป็นหุ้นที่ดี ลองเข้ามาอ่านเทคนิคการเลือกหุ้นกันได้เลย

Home
ติดต่อสอบถาม
Article